สวัสดีครับกลับมาพบกับการรีวิวอีกครั้ง มาพบกับ โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง ซีรี่ย์ใหม่ “ตำนานดาบมังกร” กับ MSI GF66 Katana รหัสโมเดล 11UC-217TH สำหรับเครื่องที่เราได้มารีวิวในวันนี้จะเป็น Intel Core i7-11800H การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 หน้าจอขนาด 15.6” Full HD (1920×1080) Refresh Rate 144 Hz ราคาเปิดตัวที่ 37,990 บาท จะเป็นอย่างไรในปี 2022 ในช่วงเวลาที่ CPU Generation ใหม่ออกวางจำหน่ายแล้วจะยังไหวอยู่ไหม เดี๋ยวผมมารีวิวด้วยความรู้สึกของผมที่เคยสัมผัสรุ่นก่อนหน้านี้ ติดตามชมกันเลยครับผม
Bundle
เมื่อซื้อเครื่องจะถูกห่อด้วยกล่องชั้นนอกก่อน 1 ชั้น แล้วภายในถึงจะมีกล่องใส่ตัวเครื่องและกระเป๋าเป้ครับ และเมื่อแกะตัวกล่องใส่ตัวเครื่องเราจะพบ ตัวเครื่อง,สายชาร์จแบบ DC150W พร้อมปลั๊กไฟแบบสามตาครับผม
Inspiration & Concept
แรงบันดาลใจของการออกแบบเครื่องซีรี่ย์นี้ทาง MSI ได้เชิญคุณ “Tsuyoshi Nagano” ศิลปินนักวาดภาพตัวละครในเกมแนว RPG ตั้งแต่ยุคปี 1990 โดยที่สร้างชื่อเสียงและนิยมมากๆคือเกม “Romance of the Three Kingdoms” และเกม “Nobunaga’s Ambition” ทำให้เป็นไอเดียพื้นฐานในการวาดภาพและนำมาใช้เป็น Wallpaper ของเครื่องโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ด้วย
Design
การออกแบบรุ่นนี้จากที่กล่าวในข้างต้นว่าเป็น ซีรี่ย์เกี่ยวกับอาวุธ ซามูไร จึงเน้นการใช้ สีดำด้าน แต่สะท้อนแสงไปมาเผื่อให้เกิดมิติเวลาที่มองมาที่ตัวเครื่อง เครื่องจึงโดดเด่น แม้ไม่มีไฟ RGB
ยังคงมี Dragon Shield สัญลักษณ์มังกรประจำอยู่บริเวณฝาหลังของตัวเครื่องสลักไว้ เป็น Signature ของ MSI ครับผม
ในส่วนของการระบายความร้อนนั้นได้จัดเตรียมชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ที่ใส่ฮีทไปป์มาให้มากถึง 6 เส้น ช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมขยายตะแกรงใต้ท้องเครื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่สะใจมากๆ โดยรูระบายอากาศเจาะเป็นรูปรังผึ้ง ที่ช่วยให้นึกถึงแนวคิด Tsuba (刀鐔) ของตัวดาบ Katana ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยให้มีการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีการใส่รายละเอียดลงไปในการออกแบบแนวเฉียงอีกด้วย แกะทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายครับ
คีย์บอร์ดเป็นจะมีการย่อเสกลลงมาเผื่อให้ตัวเครื่องมีขนาดที่กระทัดรัดลง แต่มีปุ่มคำสั่งและคีย์ลัดครบทุกปุ่มไม่มีขาดหาย มีไฟ LED สีแดงปรับได้ 3 ระดับ ส่วนเรื่องการพิมพ์และการกด ได้ทดสอบทั้งการพิมพ์และการเล่นเกมที่ต้องมีการกดจังหวะบ่อยๆ ผมถือว่าค่อนข้างแม่นยำระยะปุ่มไม่ยวบไม่ลึกเกินไปครับกับ key travel 1.7 mm. แบบนี้
(แต่จุดพิจารณาใครที่พิมพ์สัมผัสด้วยคีย์บอร์ด Full Size บ่อยๆ มาใช้เครื่องรุ่นนี้อาจต้องปรับตัวเล็กน้อยครับ)
ส่วนทัชแพดสำหรับผมที่ครอบครองเครื่อง MSI ในรุ่นก่อนหน้านี้ก็ยังรักษารูปแบบไว้เหมือนเดิมครับแผ่นใหญ่ไถง่าย
(แต่ใครที่ย้ายมาจากแบรด์อื่นๆ อาจยังไม่ลื่นปรุ๊ดปร้าดนะครับเช่นการ สกอร์เมาส์เลื่อนหน้าจอเว็บไซต์ขึ้นๆลงๆ คำแนะนำจากผมคือพกเมาส์ไร้สายซักตัวครับเสียบใช้งาน)
Port Connector
เริ่มที่ด้านซ้ายเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องจะมีพอร์ต ชาร์จไฟเครื่อง USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง และ USB 2.0 Type A จำนวน 1 ช่องครับ
ด้านขวาจะมี LAN RJ45 แบบ 1 Gbps จำนวน 1 ช่อง , HDMI จำนวน 1 ช่อง , USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง USB 3.1 Type C จำนวน 1 ช่อง และช่องหูฟัง 3.5 มม (แบบรวมไมค์โครโฟนและหูฟังในตัว) 1 ช่องครับ
Display
หน้าจอ มาในขนาด 15.6 นิ้ว พาแนลชนิด IPS LCD ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล 45%NTSC ค่า Refresh Rate 144 Hz ขอบหน้าจอแบบ THIN-BEZEL ทำให้ขอบด้านข้างมีพื้นที่น้อยมาก ด้านบนขอบจอจะมีกล้อง WEBCAM HD type (30fps@720p) พร้อมไมค์สองตัว
ส่วนหน้าจอสามารถกางได้ระดับ 180 องศาเลยทีเดียวครับผม
Specification
- CPU : Intel Core i7-11800H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 (4GB GDDR6)
- RAM : 8GB DDR4 BUS 3200 MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
- หน้าจอ : ขนาด 15.6” Full HD (1920×1080) Refresh Rate 144 Hz
- OS : Windows 10 Home
- WEBCAM : HD type (30fps@720p)
- WIFI : 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.2
- LAN RJ45 : 1 Gigabit Port
- แบตเตอรี่ : 53.5(Whr)
- ราคา 39,990 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็ม
Testing
การทดสอบแรกกับการรับสัญญาณ WIFI รองรับมาตฐาน 802.11 ax Wi-Fi 6 ทำให้สปีดที่ได้เมื่อใช้คู่กับ Router Access Point ที่รอบรับ Wi-Fi 6 สปีดการรับส่งทำได้ไม่ต่างจากการเสียบสายแลนเลยครับ
(โดยแพคเกจอินเตอร์เน็ตทดสอบครั้งนี้คือ 1000/500 Mbps )
เรื่องเสียงยังเลือกใช้ Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยผมถือว่ายังรักษาคุณภาพเสียงไว้ไม่ตัดทอนไปครับ มีโปรแกรมปรับค่าเสียงได้อีกด้วย
ส่วนถัดไปเรื่องของความเร็ว SSD ที่ให้มาถึงจะได้เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB จาก Kingston สปีดอ่านเขียนถือว่าน่าพอใจครับ
(ในส่วนนี้หากมีความต้องการที่จะอัพเกรด เพื่อเพิ่มเนื้อที่ในตัวเครื่อง และความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล สามารถอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe GEN 4 จะได้ความเร็วที่เรียกได้ว่าสุดจัดปลักบอกเลยครับผม)
ต่อด้วย โปรแกรม Benchmark ด้านกราฟฟิคอย่าง 3D Mark ที่ภาพรวมของเสปคนี้จะได้ CPU Intel Core i7-11800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 (4GB GDDR6) มาดึงประสิทธิภาพทำให้ยังสามารถรักษาคะแนนไม่ต่างจากรุ่นที่ผมมีซึ่งเน้นทางด้านกราฟฟิคของเครื่องเลยครับ
(ในส่วนนี้สามารถ อัพเกรดแรมที่ให้มาจากเดิม 8GB DDR4 BUS 3200 MHz ก็ทำการใส่ให้ครบอีก 1 ตัวในรุ่นรหัสเดียวกันเป็น 16 GB ทำได้การใช้งานและผลคะแนนดีขึ้นได้ครับผม )
ปิดการด้วย Cinebench ทดสอบภาค CPU ล้วนๆ ถือว่าปั่นคะแนนได้ดีมากๆครับ แซงเครื่องรุ่นเก่าผมไปแล้วตอนนี้
คะแนนการ Benchmark ดีแบบนี้ต้องมาลองเล่นเกมครับ
ผมขอฉีกมาแนะนำเกมฮิตและเกือบฮิตบ้างนะครับ นั้นคือเกม PUBG และ Need For Speed Heat
ผมได้ปรับลดกราฟฟิคที่เหมาะสมกับตัวเครื่องแล้วจะพบว่าสเปคนี้และใส่แรมเท่านี้ก็ถือว่าให้ประสพการ์ณและกราฟฟิคที่ดีมากๆเลยครับ ถึงแม้ว่า CPU Generation ใหม่จะมาแล้วก็ตาม
และด้วยหน้าจอที่เป็น IPS 144 Hz ทำให้ภาพของตัวเกมนั้นลื่นไหลและดูเป็นธรรมชาติมากๆครับจากแต่เติมที่รุ่นที่ผมใช้งานแต่เดิมจะมีเพียง 60 Hz เท่านั้น
ใครที่จะไลฟ์สตีมไปด้วยเล่นไปด้วย อาจเพิ่มแรม เป็น 16 GB ทำได้การเล่นและสตีมนั้นดีขึ้นได้ครับผม
MSI Center
ผมขอแนะนำโปรแกรมประจำโน้ตบุ๊ค MSI สำหรับการปรับตั้งค่าต่างๆ อาทิ รอบพัดลม ระดับแสงไฟ ดูค่าสถานะเครื่อง และการ Backup การโคลนนิ่งเตรียมข้อมูลไปสู่ SSD ตัวใหม่ สามารถมาจัดการได้ผ่านโปรแกรมนี้เลยครับผม
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ โน๊ตบุ๊คสเปคคุ้มค่าอีกรุ่นของทาง MSI ที่ใส่มาผมถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามเรียบง่ายและมีมิติคงเอกลักษณ์ MSI Gaming ไว้ไม่ขาดหาย ความร้อนแทบไม่สะสมเลยครับ ระบายออกไวมากๆ ซึ่งเป็นข้อดีในการซื้อโมเดลที่สเปคสูงขึ้น ครับ ส่วนโมเดิลที่รีวิวนี้วางจำหน่ายในราคา 39,990 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็มกับทาง SVOA ครับผม หาซื้อได้ตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทย สนใจคลิกเลย
ชื่นชอบการรีวิวก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับสำหรับไปแล้วครับ สวัสดีครับ