รีวิว : Review MSI Crosshair 15 - Rainbow Six Extraction Edition มาปราบเหล่า อาร์เคียน ด้วย Notebook ทรงพลังเครื่องนี้กันเถอะ!!
สวัสดีครับกลับมาพบกับการรีวิวอีกครั้ง มาพบกับ โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง รุ่นพิเศษจากทาง MSI กับ MSI Crosshair 15 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 82,490 บาท กับเสปค i7-12700H , RAM 32 GB , SSD 1TB NVMe PCI-E GEN3 , RTX 3070 8GB , หน้าจอระดับ 2K 165 Hz พร้อมกับการร่วมมือกับ Ubisoft กับเกม Tom Clancy's Rainbow Six Extraction ที่แฟนๆเกม RB6 อาจชื่นชอบและสะสมกันนะครับเพราะ ลวดลายออกแบบมาเสมือนเราสวมบทบาทเข้าร่วมทีม REACT ปราบเหล่า อาร์เคียน กันเลยทีเดียวจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยครับ
Bundle
เมื่อซื้อเครื่อง มีกล่องใส่ตัวเครื่องที่เป็นโลโก้ของ Extraction Crest และเมื่อแกะตัวกล่องใส่ตัวเครื่องเราจะพบ ตัวเครื่อง,สายชาร์จแบบ DC250W พร้อมปลั๊กไฟแบบสามตาครับผม (สายละม้ายคล้ายสาย Power Supply ของเครื่อง Desktop เลยนะครับเนี่ยอิอิ)
ต่อมาก็จะมี คู่มือและ Rainbow Six Extraction COLOR BOX พร้อมตัวเกม Tom Clancy’s Rainbow Six Extraction สุดท้ายที่ MSI เขาแถมเกมมิ่งเกียร์นั้นคือเมาส์และแผ่นรองเมาส์ ที่ เข้าธีมเกม มากๆครับผม
Design
ออกแบบเน้นการใช้ พลาสสีดำด้าน แต่สะท้อนแสงไปมาเผื่อให้เกิดมิติเวลาที่มองมาที่ตัวเครื่อง เครื่องจึงโดดเด่น แม้ไม่มีไฟ RGB มาช่วยให้เกิดความสวยงามก็ตาม และยังคงมีโลโก้ Extraction Crest อยู่บริเวณฝาหลังของตัวเครื่องสกรีนไว้ เป็น Signature ของรุ่นนี้ครับผม
ในส่วนของการระบายความร้อนนั้นได้จัดเตรียมชุดระบายความร้อน Cooler Boost5 เจาะรูระบายอากาศ เยอะพอสมควรยังช่วยให้มีการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีการใส่รายละเอียดของฝาครอบใต้ล่าง ที่เรียกว่า D-side อย่างพิถีพิถันเพื่อทำให้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น แกะทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายครับ (คล้ายๆฝาใต้ท้องของรุ่น GF66-Katana เลยครับ)
คีย์บอร์ดเป็นจะมีการย่อเสกลลงมาเผื่อให้ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัดลง ไม่มี Numpad แต่มีปุ่มคำสั่งและคีย์ลัดครบทุกปุ่มไม่มีขาดหาย มีไฟ LED สี Spectrum Backlight Keyboard ปรับได้ 3 ระดับไม่มี RGB นะครับ (เป็นไฟสี FIX ตามโซนคีย์บอร์ดครับ) ส่วนเรื่องการพิมพ์และการกด ได้ทดสอบทั้งการพิมพ์และการเล่นเกมที่ต้องมีการกดจังหวะบ่อยๆ ผมถือว่ากดมียวบๆ กดยากบางจังหวะครับ แต่เกม FPS อาจไม่มีปัญหาครับ และขอบขวาล่างของตัวเครื่อง มีโลโก้ Extraction Crest อีกด้วยคุมธีมสุดๆเลย
ส่วนทัชแพดมีการสกรีนคำว่า REACT ด้วยนะครับ สำหรับผมที่ครอบครองเครื่อง MSI ในรุ่นก่อนหน้านี้ก็ยังรักษารูปแบบไว้เหมือนเดิมครับแผ่นใหญ่ไถง่าย (แต่ใครที่ย้ายมาจากแบรด์อื่นๆ อาจยังไม่ลื่นปรุ๊ดปร้าดนะครับเช่นการ สกอร์เมาส์เลื่อนหน้าจอเว็บไซต์ขึ้นๆลงๆ คำแนะนำจากผมคือพกเมาส์ไร้สายซักตัวครับเสียบใช้งาน)
Port Connector
เริ่มที่ด้านซ้ายเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องจะมีพอร์ต ชาร์จไฟเครื่อง USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง และ USB 2.0 Type A จำนวน 1 ช่องครับผม ช่องชาร์จไฟ DC ครับ พร้อมไฟแสดงสถานการณ์ชาร์จไฟครับ และช่องระบายความร้อนครับ
ด้านขวาจะมี LAN RJ45 แบบ 1 Gbps จำนวน 1 ช่อง (เสียใจมากๆครับ นึกว่าจะได้ 2.5G) USB 3.2 Type A จำนวน 1 ช่อง USB 3.2 Type C จำนวน 1 ช่อง ช่องหูฟัง 3.5 มม (แบบรวมไมค์โครโฟนและหูฟัง) 1 ช่อง ปิดท้ายที่ HDMI 4K60Hz ครับผม
ด้านหลังเป็นที่ระบายความร้อน มีทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา ครับผม ลมระบายโฟล์วดีมากๆ ครับ
Display
หน้าจอ มาในขนาด 15.6 นิ้ว พาแนลชนิด IPS LCD ความละเอียด FHD 2560×1440 พิกเซล ค่า Refresh Rate 165 Hz ให้รายละเอียดการแสดงผลได้คมชัดมากๆ และสีของจอที่ดีมากๆ ให้มาแบบไม่กั๊กจริงๆ ขอบหน้าจอแบบ THIN-BEZEL ทำให้ขอบด้านข้างมีพื้นที่น้อยมาก ด้านบนขอบจอจะมีกล้อง WEBCAM HD type (30fps@720p) พร้อมไมค์สองตัวครับผมใช้คู่ประชุมก็ดีเรียนออนไลน์ก็ได้นะครับ
ส่วนหน้าจอสามารถกางได้ระดับ 180 องศาเลยครับผม
การอัพเกรดเครื่อง
การอัพเกรดเครื่อง โดยที่แรมเดิมจะให้มาเพียง 32GB Bus 3200 จากทาง Samsung สามารถอัพเกรดแรมได้สูงสุดถึง 64GB เลยครับ
ส่วน SSD ของเดิมจะได้เป็น NVMe PCI-E GEN3 ซึ่งสามารถนำมาเปลี่ยนเป็น GEN4 ได้ในอนาคตครับและสามารถใส่ Hard Disk และ SSD แบบ NVMe GEN4 ได้อีก 1 ช่องด้วยครับผมมีตัวอย่างด้วยนะครับ
Specification
- CPU : Intel Core i7-12700H
- GPU : NVIDIA GeForce GTX 3060 (8GB GDDR6)
- RAM : 32GB DDR4 BUS 3200 MHz อัพเกรดได้ถึง 64 GB
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB อัพเกรดได้อีก 1 ช่องและ 2 ช่องนี้สามารถใช้ NVMe PCIe Gen4 SSD
- หน้าจอ : ขนาด 15.6” Full HD (2560×1440) Refresh Rate 165 Hz
- OS : Windows 11 Home
- WEBCAM : HD type (30fps@720p)
- WIFI : 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.2
- LAN RJ45 : 1 Gigabit Port
- แบตเตอรี่ : 90(Whr)
- ราคา 82,490 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็ม
Testing
การทดสอบแรกกับการรับสัญญาณ WIFI รองรับมาตฐาน 802.11 ax Wi-Fi 6 ทำให้สปีดที่ได้เมื่อใช้คู่กับ Router Access Point ที่รอบรับ Wi-Fi 6 สปีดการรับส่งทำได้ไม่ต่างจากการเสียบสายแลนเลยครับ (โดยแพคเกจอินเตอร์เน็ตทดสอบครั้งนี้คือ 1000/500 Mbps )
เรื่องเสียงยังเลือกใช้ Nahimic ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยผมถือว่ายังรักษาคุณภาพเสียงไว้ไม่ตัดทอนไปครับ มีโปรแกรมปรับค่าเสียงได้อีกด้วย เป็นโปรแกรมและไดร์เวอร์เสียงให้กับ Notebook ของทาง MSI อยู่แล้วครับผม
ส่วนถัดไปเรื่องของความเร็ว SSD ที่ให้มาถึงจะได้เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB จาก Kingston สปีดอ่านเขียนถือว่าน่าพอใจครับ (ในส่วนนี้หากมีความต้องการที่จะอัพเกรด เพื่อเพิ่มเนื้อที่ในตัวเครื่อง และความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล สามารถอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe GEN 4 จะได้ความเร็วที่เรียกได้ว่าสุดจัดปลักบอกเลยครับผม)
ต่อด้วย โปรแกรม Benchmark ด้านกราฟฟิคอย่าง 3D Mark ที่ภาพรวมของเสปคนี้จะได้ CPU Intel Core i7-12700H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 3070 (8GB GDDR6) บอกเลยว่าการจับคู่แบบนี้รีดประสิทธิภาพชนิดเครื่อง Desktop อายเลยครับผม แถมทำลายทุกผลคะแนนการทดสอบเครื่องที่ทาง LOFTGAME ได้ทดสอบมาแล้วครับในตอนนี้ เนื่องจากใช้การ์ดจอ RTX ผมได้แถม Port Royal ที่เทสการแสดงผล ray tracing ด้วยครับผมไปชมกันเลยครับ
ปิดการด้วย Cinebench ทดสอบภาค CPU ล้วนๆ
กลับสู่ช่วงลองเล่นเกมครับ
สำหรับการทดสอบบอกเลยว่าดูกันไถจอเว็บดูกัน เพลินมากๆ ครับเพราะผมเทสทั้ง 2K และ Full HD สลับกันไปในบางเกม
ส่วนเกม Signature คู่เอกของเราในเกม RB6 ผมจะเทสแบบปรับสุดจากที่เกมเข้าตั้งค่าให้นะครับผม เพื่อการันตีว่าเล่นแบบนี้ ลงตัวแน่นอนเมื่อมาเล่นเกม MSI Crosshair 15 ครับผม มารับชมต่อนะครับ
พาเล่นเกม PUBG ไปลุยกันเลยครับกับเสปค ดังนี้ครับ วัดความเหนียวกันหลังทรมาร Benchmark กันไปแล้ว
ต่อด้วยเกม Need for speed HEAT กันบ้างครับ ผลลัพธ์ได้ประมาณนี้ครับผม
มาถึง Signature คู่เอกของเราในเกม Rainbow Six Extraction อย่างที่ผมแจ้งไปในข้างต้นครับว่า ผมจะเทสแบบปรับสุดจากที่เกมเข้าตั้งค่าให้นะครับผม เพื่อการันตีว่าเล่นแบบนี้ ลงตัวแน่นอนเมื่อมาเล่นเกมนี้บน Notebook MSI Crosshair 15 ครับ มารับชมต่อนะครับ
MSI Center
ผมขอแนะนำโปรแกรมประจำโน้ตบุ๊ค MSI สำหรับการปรับตั้งค่าต่างๆ อาทิ รอบพัดลม ระดับแสงไฟ ดูค่าสถานะเครื่อง และการ Backup การโคลนนิ่งเตรียมข้อมูลไปสู่ SSD ตัวใหม่ สามารถมาจัดการได้ผ่านโปรแกรมนี้เลยครับผมที่สำคัญ มี MSI AI Engine ที่สามารถวิเคราะห์สถานการ์ณต่างๆได้ เช่นการเล่นเกม การใช้งาน Render ชิ้นงาน พัดลมเครื่องก็จะปรับบูทขึ้นมาเป็นต้นครับ
Nahimic Setting
ปิดท้ายระบบเสียงจากทาง Nahimic กันนะครับ เป็นซอฟ์ตแวร์ที่จูนระบบเสียงและตัวช่วยเวลาเราเล่นเกมเช่นมี เรดาห์บอกตำแหน่งศัตรูได้ด้วย การใช้ซอฟ์ตแวร์นี้ทำให้ เสียงฟังดีขึ้น ครับ อาจต้องจูนอัพกันไปครับ แล้วแต่สถาณการณ์
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ โน๊ตบุ๊คระดับเทพอีกรุ่นของทาง MSI ที่ใส่เสปคมาแบบสุดแรงมากๆ พร้อมกับ การร่วมมือกับเกม
Tom Clancy's Rainbow Six Extraction ที่แฟนๆเกม RB6 อาจชื่นชอบและสะสมกันนะครับเพราะ ลวดลายออกแบบมาเสมือนเราสวมบทบาทเข้าร่วมทีม REACT ปราบเหล่า อาร์เคียน กันเลย ทีเดียว และยังคงเอกลักษณ์ MSI Gaming ความร้อนแทบไม่สะสมเลยครับ ระบายออกไวมากๆ โมเดิลที่รีวิวนี้วางจำหน่ายในราคา 82,490 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็มกับทาง SVOA ครับผม
หาซื้อได้ตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทย สนใจคลิกเลยครับ
ชื่นชอบการรีวิวก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับสำหรับไปแล้วครับ สวัสดีครับ