รีวิว : Review MSI GF66 KATANA ดาบมังกรโฉมใหม่ ที่มาพร้อมขุมพลังแห่ง Intel Core i Gen 12
สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวอีกครั้งกับ โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง ซีรี่ย์ “ตำนานดาบมังกร” กับ MSI GF66 Katana รหัสโมเดล “ 12UD-217TH ” สเปคที่เรานำมารีวิวจะเป็น Intel Core i7-12700H การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050Ti แรมให้มาถึง 16 GB Bus 3200 MHz DDR4 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6” Full HD (1920×1080) Refresh Rate 144 Hz โดยมีราคาเปิดตัวที่ 47,490 บาท จะเป็นอย่างไรในปี 2022 และแตกต่างจากโมเดลก่อนหน้าหรือไม่ เดี๋ยวผมมารีวิวให้ชมกันครับ ติดตามชมกันเลยครับผม
Bundle
เมื่อซื้อเครื่องจะถูกห่อด้วยกล่องชั้นนอกก่อน 1 ชั้น แล้วภายในถึงจะมีกล่องใส่ตัวเครื่องและกระเป๋าเป้ครับ และเมื่อแกะตัวกล่องใส่ตัวเครื่องเราจะพบ ตัวเครื่อง,สายชาร์จแบบ DC150W พร้อมปลั๊กไฟแบบสามตาครับผม
Inspiration & Concept
แรงบันดาลใจของการออกแบบเครื่องซีรี่ย์นี้ทาง MSI ได้เชิญคุณ “Tsuyoshi Nagano” ศิลปินนักวาดภาพตัวละครในเกมแนว RPG ตั้งแต่ยุคปี 1990 โดยที่สร้างชื่อเสียงและนิยมมากๆคือเกม “Romance of the Three Kingdoms” และเกม “Nobunaga’s Ambition” ทำให้เป็นไอเดียพื้นฐานในการวาดภาพและนำมาใช้เป็น Wallpaper ของเครื่องโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ด้วย
Design
การออกแบบรุ่นนี้จากที่กล่าวในข้างต้นว่าเป็น ซีรี่ย์เกี่ยวกับอาวุธ ซามูไร จึงเน้นการใช้ สีดำด้าน แต่สะท้อนแสงไปมาเผื่อให้เกิดมิติเวลาที่มองมาที่ตัวเครื่อง เครื่องจึงโดดเด่น แม้ไม่มีไฟ RGB เช่นเดิม
ยังคงมี Dragon Shield สัญลักษณ์มังกรประจำอยู่บริเวณฝาหลังของตัวเครื่องสลักไว้ เป็น Signature ของ MSI ครับผม
ในส่วนของการระบายความร้อนนั้นได้จัดเตรียมชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 ที่ใส่ฮีทไปป์มาให้มากถึง 6 เส้น ช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมขยายตะแกรงใต้ท้องเครื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่สะใจมาก ๆ โดยรูระบายอากาศเจาะเป็นรูปรังผึ้ง ที่ช่วยให้นึกถึงแนวคิด Tsuba (刀鐔) ของตัวดาบ Katana ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยให้มีการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีการใส่รายละเอียดลงไปในการออกแบบแนวเฉียงอีกด้วย แกะทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายครับ
คีย์บอร์ดเป็นจะมีการย่อเสกลลงมาเผื่อให้ตัวเครื่องมีขนาดที่กระทัดรัดลง แต่มีปุ่มคำสั่งและคีย์ลัดครบทุกปุ่มไม่มีขาดหาย มีไฟ LED สีแดงปรับได้ 3 ระดับ ส่วนเรื่องการพิมพ์และการกด ได้ทดสอบทั้งการพิมพ์และการเล่นเกมที่ต้องมีการกดจังหวะบ่อยๆ ผมถือว่าค่อนข้างแม่นยำระยะปุ่มไม่ยวบไม่ลึกเกินไปครับกับ key travel 1.7 mm. แบบนี้
(แต่จุดพิจารณาใครที่พิมพ์สัมผัสด้วยคีย์บอร์ด Full Size บ่อย ๆ มาใช้เครื่องรุ่นนี้อาจต้องปรับตัวเล็กน้อยครับ)
ส่วนทัชแพดสำหรับผมที่ครอบครองเครื่อง MSI ในรุ่นก่อนหน้านี้ก็ยังรักษารูปแบบไว้เหมือนเดิมครับแผ่นใหญ่ไถง่าย
(แต่ใครที่ย้ายมาจากแบรนด์อื่น ๆ อาจยังไม่ลื่นปรุ๊ดปร้าดเท่าไหร่นะครับเช่นการ สกอร์เมาส์เลื่อนหน้าจอเว็บไซต์ขึ้น ๆลง ๆ คำแนะนำจากผมคือพกเมาส์ไร้สายซักตัวครับเสียบใช้งาน)
Port Connector
เริ่มที่ด้านซ้ายเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องจะมีพอร์ต ชาร์จไฟเครื่อง USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง และ USB 2.0 Type A จำนวน 1 ช่องครับ ซึ่งจะไม่ได้ปรับตำแหน่งแต่อย่างใดครับ
ด้านขวาจะมี LAN RJ45 แบบ 1 Gbps จำนวน 1 ช่อง , HDMI จำนวน 1 ช่อง , USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง USB 3.1 Type C จำนวน 1 ช่อง และช่องหูฟัง 3.5 มม (แบบรวมไมค์โครโฟนและหูฟังในตัว) 1 ช่องครับ ซึ่งจะไม่ได้ปรับตำแหน่งแต่อย่างใดครับ
Display
หน้าจอ มาในขนาด 15.6 นิ้ว พาแนลชนิด IPS LCD ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล 45%NTSC ค่า Refresh Rate 144 Hz ขอบหน้าจอแบบ THIN-BEZEL ทำให้ขอบด้านข้างมีพื้นที่น้อยมาก ด้านบนขอบจอจะมีกล้อง WEBCAM HD type (30fps@720p) พร้อมไมค์สองตัว เช่นเดิมครับ
ส่วนหน้าจอสามารถกางได้ระดับ 180 องศาเลยทีเดียวครับผม ใครที่ต้องการการปรับองศาจอที่เยอะๆ ถึงขั้นแบนราบ Model นี้จะเป็น Model เริ่มต้นของแบรนด์นี้ครับ
Specification
- CPU : Intel Core i7-12700H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050Ti (4GB GDDR6)
- RAM : 16GB DDR4 BUS 3200 MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen4 512GB
- หน้าจอ : ขนาด 15.6” Full HD (1920×1080) Refresh Rate 144 Hz
- OS : Windows 11 Home
- WEBCAM : HD type (30fps@720p)
- WIFI : 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.2
- LAN RJ45 : 1 Gigabit Port
- แบตเตอรี่ : 53.5(Whr)
- ราคา 47,490 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็ม
Testing
การทดสอบแรกกับการรับสัญญาณ WIFI รองรับมาตรฐาน 802.11 ax Wi-Fi 6 ทำให้สปีดที่ได้เมื่อใช้คู่กับ Router Access Point ที่รอบรับ Wi-Fi 6 สปีดการรับส่งทำได้ไม่ต่างจากการเสียบสายแลนเลยครับ ซึ่งคล้ายกับตัวรุ่นก่อนหน้าครับ (โดยแพคเกจอินเตอร์เน็ตทดสอบครั้งนี้คือ 1000/500 Mbps)
เรื่องเสียงยังเลือกใช้ Nahimic ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยผมถือว่ายังรักษาคุณภาพเสียงไว้ไม่ตัดทอนไปครับ มีโปรแกรมปรับค่าเสียงได้อีกด้วยซึ่งคล้ายกับตัวรุ่นก่อนหน้าครับ
ส่วนถัดไปเรื่องของความเร็ว SSD ที่ให้มาถึงจะได้เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB จาก Micron สปีดอ่านเขียนถือว่าน่าพอใจครับ เพราะรอบนี้ให้ SSD M.2 PCI-E Gen4 มาแล้วทำความเร็วได้แบบฉับไวมากๆ (แต่หากใครเก็บเกมและข้อมูลไฟล์เยอะ สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ครับผม)
ส่วนแบตเตอรี่ ต้องเรียนตามตรงครับว่า ซีรี่ย์เกมมิ่งการใช้พลังงานจะค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว หากต้องการใช้งานแบตเตอรี่ทำงาน แบบเปิดแสง 100% พิมพ์งานเอกสารทำแต่งภาพ Photoshop จะอยู่ประมาณ 1:40 ชั่วโมงครับ
Benchmark
ต่อด้วย โปรแกรม Benchmark ด้านกราฟฟิคอย่าง 3D Mark ที่ภาพรวมของเสปคนี้จะได้ CPU Intel Core i7-11800H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 (4GB GDDR6) มาดึงประสิทธิภาพทำให้ยังสามารถรักษาคะแนนไม่ต่างจากรุ่นที่ผมมีซึ่งเน้นทางด้านกราฟฟิคของเครื่องเลยครับ
(ในส่วนนี้สามารถ อัพเกรดแรมที่ให้มาจากเดิม 8GB DDR4 BUS 3200 MHz ก็ทำการใส่ให้ครบอีก 1 ตัวในรุ่นรหัสเดียวกันเป็น 16 GB ทำได้การใช้งานและผลคะแนนดีขึ้นได้ครับผม )
ปิดท้ายด้วยการใช้โปรแรกม Cinebench ทดสอบภาค CPU ล้วนๆ
ถือว่าปั่นคะแนนได้ดีมากๆครับ เพราะได้ CPU ใหม่จากทาง Intel ที่ตัว CPU มีการออกแบบใหม่ให้มีการแยกคอร์แบบ P Core (ใช้สำหรับประมวลผลงานหนักๆ) และ E Core (ที่ใช้ประมวลผลงานทั่วไป) นั่นเอง
Gaming Time
คะแนนการ Benchmark ดีแบบนี้ต้องมาลองเล่นเกมครับ ด้วยการใช้ CPU Generation 12 ใหม่แบบนี้ช่วยทำให้ รีดพลังการประมวลผลได้อย่างหมดจดเลยครับถึงแม้จะใช้การ์จอรุ่นเล็กอย่าง RTX 3050Ti ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับเล่นได้ภาพสวยสมราคา
โดยทุกๆเกม ผมจะใช้การปรับกราฟฟิคจาก Nvidia GeForce Experience เพื่อการปรับค่าที่เหมาะสมที่สุดของเครื่องครับ
และด้วยหน้าจอที่ให้มานั้น เป็น IPS 144 Hz ทำให้ภาพของตัวเกมนั้นลื่นไหลและดูเป็นธรรมชาติมากๆครับ
Need for Speed Heat
PUBG
Saints Row DX11 (2022)
MSI Center
ผมขอแนะนำโปรแกรมประจำโน้ตบุ๊ค MSI นั้นคือโปรแกรม “MSI Center” เป็นโปรแกรมสำหรับการปรับตั้งค่าต่างๆ อาทิ รอบพัดลม ระดับแสงไฟ ดูค่าสถานะเครื่อง และการ Backup การโคลนนิ่งเตรียมข้อมูลไปสู่ SSD ตัวใหม่ สามารถมาจัดการได้ผ่านโปรแกรมนี้เลยครับผม โหมดที่ผมจะแนะนำจะเป็น Smart Auto ที่ช่วยการปรับรอบพัดลมให้เหมาะสมกับโปรแกรมที่เราใช้ครับผม
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับโน๊ตบุ๊คสเปคคุ้มค่าอีกรุ่นของทาง MSI ที่ใส่มาผมถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงามเรียบง่ายและมีมิติคงเอกลักษณ์ MSI Gaming ไว้ไม่ขาดหาย พร้อมทั้งการอัพเกรดมาเป็น Intel GEN12 และเรื่องความร้อนแทบไม่สะสมเลยครับ ระบายออกไวมาก ๆ ซึ่งเป็นข้อดีในการซื้อโมเดลที่สเปคสูงขึ้น ครับ ส่วน Model ที่รีวิวนี้วางจำหน่ายในราคา 47,490 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็มกับทาง SVOA ครับผม
หาซื้อพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษได้ตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทย สนใจคลิกเลย
หากชื่นชอบการรีวิว ก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ ขอขอบคุณทาง MSI Gaming ที่ส่งเครื่องให้ทดสอบกันนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับผม