กลับมาพบกับแอดมินแบงค์ต่อเนื่องกับการทดสอบประสิทธิภาพของ Gaming Notebook พันธุ์มังกร จากทาง MSI Gaming ในรุ่น Cyborg 15 เป็นคลาสเริ่มต้นออกแบบดีไซน์ใหม่หมด พร้อม RTX4000 Series และเป็นรุ่นเริ่มต้นที่เป็นแรม DDR5 ปิดท้ายคีย์บอร์ดเกมมิ่งสีฟ้าพร้อมลูกเล่น Translucent โปร่งใสในปุ่ม WASD และลูกเล่นที่ Space bar รวมถึงมาพร้อมปุ่ม Number Pad สำหรับคีย์ตัวเลข อย่ารอช้าไปสัมผัสพร้อมกันเลย
Specification intro
ในส่วนของการทดสอบนั้นจะขอแนะนำสเปคการทดสอบของเครื่องที่เรารับมาก่อนนะครับในรหัสโมเดล A12VF-010TH เปิดตัวด้วย CPU จากทาง intel i7 ในรหัส i7-12650H ที่ความสามารถนั้นครอบคลุมในทุกการใช้งานเพราะว่ามีทั้ง P Core ที่มาประมวลงานที่ต้องการความแรงเช่น การ เล่นเกม และการ Steaming และ E Core ที่จะมาช่วยในงานด้านทั่วๆไปเช่น การเปิดโปรแกรมทั่วไป คลิปวีดีโอ ไฟล์เพลง ไฟล์เอกสารเป็นต้น โดย CPU จะมีจำนวน 6 P Core และ 4 E Core
พร้อมกับ RAM ที่ให้เรามาแบบ 16GB DDR5 ที่ระยะยาวจะเป็นแรม Next generation แทนที่แรม DDR4 จุดเด่นคือ ความจุต่อ 1 แผงนั้นสามารถอัพเกรดมีมากกว่า DDR4 รองรับความต้องการที่โปรแกรมและเกมยุคใหม่ๆได้อย่างแน่นอนครับ
ส่วน SSD ที่ให้มาเป็นแบบ NVMe PCIe Gen 4 ขนาด 512 GB ความเร็วในระดับพอใช้ หากอัพเกรดจะเป็นการถอดตัวเก่าแล้วนำตัวใหม่ใส่ไปแทนนะครับเพราะมีช่องใส่แค่ 1 ช่องเท่านั้นครับ
ส่วนตัวการ์ดจอได้ความแรงใหม่ล่าสุดของปี 2023 ไปเลยกับ RTX4060 Notebook ที่พกพาแรมการ์ดจอมาด้วยถึง 8GB เยอะเท่าที่ เสปครุ่นระดับกลาง-เริ่มต้นเคยมีมาใน Gaming Notebook ราคานี้ พร้อมความสามารถอย่าง DLSS3 ที่จะช่วยเพิ่มพลังเฟรมเรทภาพให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกจากพลังเดิมของการ์ดจอ พร้อม Ray Tracing ที่จะมาช่วยปรับในเรื่องของแสงเงาที่ตกกระทบให้ภาพที่ได้นั้นเสมือนอยู่ในโลกจริงๆเลยครับ
Testing Game
เกมในรอบนี้จะมีเกมธรรมดาที่โชว์ศักยภาพของการ์ดจอ RTX4060 และเกมที่สามารถปรับ DLSS อีก 1 เกมนะครับ พร้อมแล้วไปรับชมกันเลยครับ
PUBG ALL Ultra
สำหรับเกมนี้เราได้ปรับสุดพร้อม Render Scale 120% เพื่อทดสอบพลังของตัวการ์ดจอกันครับ ปรับแบบนี้เฟรมเรทจะอยู่ที่ 90-110 FPS ถือว่ากำลังดีเลยครับ
Company of Heroes 3
เกมนี้ดึงประสิทธิภาพของการ์ดจอและ CPU ได้อย่างดีมากๆเลยครับ เฟรมเรทอยู่ที่ 80-110 FPS เช่นเดียวกันครับ เมื่อเล่นในภาพมุมสูง (เกมนี้ระวังการปรับมุมกล้องนะครับเพราะฉากบางฉากเกมทำไม่สมูทแต่แรกเฟรมเรทภาพอาจมีตกไป)
Need For Speed Heat
เกมนี้ถือว่าเรียกใช้พลังงานใช้ด้าน CPU และ GPU อีกเกมเลยถ้าปรับ Ultra และ Render Scale 100%
ก็จะอยู่ช่วง 50-85 FPS กันเลยครับ
Last Of Us Part 1
กลับมากับเกมที่เป็นปัญหาของชาว PC (เพราะทำมาให้ Play Station ก่อน) เพราะด้วยความที่ใช้กราฟฟิคค่อนข้างที่จะเยอะมากๆและกิน VRAM ของการ์ดจอเยอะมากๆ จึงต้องมีการใช้เทคโนโลยี DLSS เข้ามาช่วยในการประมวลผลภาพ ทำให้สามารถปรับภาพได้ถึง High ได้เฟรมเรทที่ 48-110 FPS กันเลยครับ (ซึ่งแล้วแต่ฉากเกมด้วย)
Testing Benchmark intro
แถมเล็กน้อยสำหรับใครอยากรับชมการ Benchmark นะครับโดยทดสอบ กราฟฟิคการ์ดกับ 3D Mark
และโปรแกรม Cinebench R23 ทดสอบความแรงของ CPU ทั้งแบบ Single Core และ Multicore ไปรับชมกันเลยครับ
3D Mark
ภาพรวมของโปรแกรมนี้ถือว่า ประสิทธิ์ภาพของ RTX4060 แรงแซงเครื่อง Generation ที่ผ่านมาไปอีกขั้น
ครับทั้งด้านคะแนน ที่ออกมาเห็นภาพจากเครื่องบทความก่อนหน้าที่เคยรีวิวไปแล้ว
Cinebench R23
สำหรับ CPU ที่เป็น Intel i7 GEN 12 ในรุ่น i7-12650H ถือว่าให้มาเหมาะสมกับการจับคู่กับการ์ดจอ RTX4060 เลยครับ และผลคะแนนก็ได้แบบนี้เลยครับ เอาไปใช้งานเล่นเกม หรือประมวลผลหนักๆ ตัดต่อ เรนเดอร์ หรือสตรีมมิ่งหายห่วงครับ
Program & Utility
ซอฟต์แวร์ MSI Center รุ่นใหม่ รองรับการปรับแต่ง ตั้งค่าให้อิสระมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถดาวน์โหลดและอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดผ่าน MSI Center นี้ และมีลูกเล่นอีกมากมาย เช่น MSI Companion ที่เป็น Overlay ในขณะเล่นเกม, การเซฟไฮไลต์ในการเล่นพร้อมตัดต่อโดยอัตโนมัติ ดูสถานะของเครื่องได้ทั้งหมด ทั้งแบตเตอรี่ SSD CPU GPU
Bonus Modify Upgrade Guide
ผมแถม หากสมมุติว่าอัพเกรดเป็น RAM 32GB จะเป็นอย่างไรบ้าง เราได้อัพเกรดแล้วการเปิดแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมต่างๆได้คล่องตัวมากๆขึ้น หรือไม่ โดยสำหรับแรมเดิมจะเป็น 8x2 GB BUS4800MHz
ความรู้สึกหลังจากอัพเกรดแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้างติดตามชมกันเลยครับ
ความรู้สึกหลังอัพเกรด
ภาพรวมด้านเกมขอเทสกับเกมอย่าง Last of Us Part 1 แล้วกันนะครับเพราะเป็นเกมที่ใช้สเปคค่อนข้างมากเมื่อใส่แรม 32GB เข้าไปทำให้ตัวเกมนั้นเฟรมเรทเพิ่มขึ้นมา 10 FPS และสามารถที่จะอัดแคปเจอร์หน้าจอไปเล่นเกมไปแบบไม่กระตุกแล้วครับเห็นผลครับสำหรับเกมนี้
ส่วนคะแนนการทดสอบ Benchmark จะไม่หนีกันมากครับเพราะเพิ่มแต่ความจุแรม ไม่ได้ใส่เพิ่มเติม ในส่วนแรมชนิดบัสที่สูงกว่าของเดิม ผลคะแนนเลยไม่ได้ต่างกันมากครับ
บทส่งท้าย
จบไปแล้วนะครับสำหรับ Cyborg 15 ปิดท้ายกับการทดสอบแน่นๆ ทั้งแบบเดิมๆ หรืออัพเกรดเป็นแรม 32GB เป็นเครื่องคลาสเริ่มต้นสายพันธุ์ใหม่ มาใส่ธีม สีดำตัดกับสีฟ้า พร้อมเป็นครั้งแรกกับการออกแบบ
ที่คีย์บอร์ด และตัวบอร์ดดี้โปร่งใส่ Translucent พร้อมสเปคระดับ RTX4000 Series และ CPU จากทาง intel GEN12 พร้อมกับแรมที่เป็น DDR5 ที่ความจุ ต่อ 1 แผงนั้นมากกว่า DDR4 และราคา ที่ทยอยปรับตัวเทียบเท่า DDR4 เดิมแล้ว มีหลากหลายราคาเริ่มต้นที่ 46,990 บาท ตัวเครื่องรับประกัน 2 ปี จากทาง SVOA หากสนใจสามารถ หาซื้อได้ที่ร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทย หรือ คลิกเลยครับ
ฝากติดตาม รีวิวจากทางพวกเรา LOFTGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับ สวัสดีครับ
- Facebook คลิกเลยครับ
- TikTok คลิกเลยครับ
- และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ