หลังจากที่ MSI ได้เปิดตัวซีรี่ย์ Gaming Notebook ที่ใช้ Intel Generation 13 ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ถึงเวลาที่เราจะได้ทดลองเครื่องในระดับ Top Tier ของทางแบรนด์กันแล้วกัน MSI Rider GE78 HX ในรหัส 13VH-050TH มีจุดเด่นหน้าสนใจตั้งแต่หน้าจอที่ให้มาถึง 2K 240Hz DCI-P3 อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ 16:10 ซึ่งให้มุมมองภาพที่เต็มตา เห็นฉากพิเศษของเกมที่หน้าจอปกติให้ไม่ได้ พร้อมสเปคสุดโหดกับ Intel Core i9 Gen13 และการ์ดจอ RTX4080 ปิดท้ายท่าไม้ตายด้วยแรม DDR5 64GB และ SSD NVMe 2TB ถึง 2 ตัวเลย คุ้มค่าตัวหลักแสน พร้อมแล้วมารับชมกันครับ
Bundle
เมื่อแกะกล่องนอกออกมาจะพบกับกล่อง Notebook และกระเป๋าใส่เครื่อง Official ครับ
ส่วนกล่อง Notebook จะมีตัวเครื่อง คู่มือ อแด๊ปเตอร์ชาร์จเครื่องจ่ายไฟสูงถึง 330W (ซึ่งใหญ่มากๆ จส.100 ตามหายังเจอ อิอิ)
Design and Specification
ในส่วนของการออกแบบรุ่นนี้มี รายละเอียดใส่กันแบบจัดเต็มๆ หมดปลอกไม่มีกั๊ก เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ คือการที่ให้ไฟ RGB แบบที่ปรับได้อย่างอิสระ อาทิ ขอบเครื่อง , โลโก้ฝาหลังเครื่อง , และคีย์บอร์ดในเครื่อง และลำโพงเสียง 6 ตัวให้เสียงที่อลังการมากๆครับ
คีย์บอร์ดในรุ่นนี้ได้รับความร่วมมือกับ Steel Series แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ชื่อดังสามารถปรับแสงไฟได้อย่างอิสระในทุกๆปุ่ม (เรียกว่า Per-Key RGB) ส่วน Touchpad ก็ใหญ่สะใจสไลด์ได้แม่นยำแน่นอนครับ
บริเวณขอบเครื่องที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ก็สามารถปรับแสงไฟได้เช่นเดียวกัน (เรียกว่า Raider GE Matrix Light Bar) ซึ่งจะ Sync ควบคู่ไปกับการปรับแสง บริเวณฝาท้ายกับ โลโก้มังกร MSI ของเรา บริเวณฝาหลังก็เป็นการพ่นทับด้วยเนื้อทรายละเอียดบนพื้นผิว ให้สัมผัสที่หรูหรา และแข็งแรง
โดยการปรับการตั้งค่านี้จะปรับที่โปรแกรม Steel Series Engine มีข้อดีคือใครที่มีเกมมิ่งเกียร์ Steel Series ที่ตั้งค่าจากโปรแกรมนี้ได้ สามารถนำเกมมิ่งเกียร์เช่น เมาส์ หรือคีย์บอร์ด ของทาง Steel Series มาใช้งานร่วมกันและปรับแสงไฟ RGB เพื่อให้ Sync กับตัวเครื่อง เพื่อให้เกิดความสวยงามในการใช้งาน โดดเด่นสะดุดตากันเลยทีเดียว
พอร์ตการเชื่อมต่อ บอกเลยว่าอลังการแน่นไปด้วยเทคโนโลยี มีทางลมออกเพื่อระบายความร้อนของเสปคระดับยานแม่ในทุกด้าน โดยเริ่มจากขอบด้านหลังเครื่องที่ เป็นช่องชาร์จแบตเตอร์รี่ , USB Type C 3.2 (ต่อออกจอภาพ Display Port ได้) HDMI (Version 2.1 รองรับการต่อ Monitor Refresh Rate สูงๆ ได้) , และปิดท้ายที่ ช่อง LAN แบบ 2.5Gb แรงกระชากสะใจเลย
ด้านซ้ายเครื่องจะเป็น ช่อง Thunderbolt 4 (ไว้ต่อ External Drive และรอบรับ Display Port Version 1.4) ช่องอ่าน SD Card , ช่องเสียบหูฟังแบบคอมโบ้ รวมไมค์+หูฟัง
ด้านขวาเครื่องจะเป็นช่อง USB Type A 3.2 ถึง 2 ช่อง และ USB Type C 3.2 Gen2 ที่เป็นช่องชาร์จมือถือแบบ PD Charge ได้สะดวกมากๆ
กลับมาท่อนบน ที่หน้าจอของรุ่นนี้เขามากันถึง 2K DCI-P3 พร้อมอัตราส่วนแบบ 16:10 Golden Ratio ที่ใช้งานได้อย่างเต็มตา
มุมมองของภาพกว้างเพราะขอบจอด้านบนและล่างของภาพเยอะมากขึ้นนั่นเอง พร้อม Refresh สูงถึง 270Hz พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color ที่ให้ค่าสีที่ตรง และมี Profile เพื่อปรับค่าให้แสดงผลตรงตามการใช้งาน พร้อมเว็บแคม Full HD 30 FPS มีสวิตช์ปิดกล้อง เพื่อความปลอดภัยเมื่อประชุม หรือเรียนออนไลน์ แล้วไม่ตั้งใจที่จะเปิดใช้งาน Webcam
เมื่อแกะฝาออกภาพรวมฮาร์ดแวรภายในจะเป็นดังนี้ครับ อลังมากมากๆ
ภายในฮาร์ดแวร์จะพบพระเอก CPU Intel Core i9 Gen13-13480HX ที่มี Core P Core ถึง 8 และ E Core ถึง 16 เลย (ขออนุญาตไม่ขยายความ P และ E Core แล้วนะครับ) และมี Threads CPU ถึง 32 Threads เยอะมากๆ นี่มันจะใกล้ๆกับ Desktop CPU แล้วนะ แล้วความพิเศษเมื่อประทับในยานแม่รุ่นนี้ คือการมีเทคโนโลยี MSI Over Boost Ultra ที่มาเพิ่มพลัง Overclock ให้ CPU ป้อนไฟเข้าไปได้ถึง 250W นั่นคือความแรงเท่ากับ Desktop PC แล้วนั่นเองมีเครื่องรุ่นนี้เหมือนได้พก Desktop PC ระดับเทพไปได้ทุกที่มันส์กับเกมและการทำงานได้ทุกเวลา (ชึ่งผลการทดสอบจะขอยกไปในบทถัดไป)
การ์ดจอในเมื่อมาในระดับยานแม่ จัดไปกับ RTX4080 Notebook ให้แรมการจอมาถึง 12GB บอกเลยว่าใช้กันได้แบบคุ้มค่าแน่นอน พร้อมเทคโนโลยีใหม่ของ RTX4000 Series อาทิ Ray Tracing และ DLSS3 ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการแสดงผลด้านเกมกราฟฟิกลื่นไหล และสวยงามเสมือนโลกมนุษย์จริงมากยิ่งขึ้น (ชึ่งผลการทดสอบจะขอยกไปในบทถัดไป)
โดยทาง MSI ได้ออกแบบการระบายความร้อนโดยการใช้เทคโนโลยี Cooler Boot 5 พร้อมเทคโนโลยี Share Pipe เมื่อรวมร่างกันแล้ว ทำให้สามมารถใช้งานได้แม้อยู่ในอุณภูมิห้องที่ไม่เปิดแอร์ (ชึ่งผลการทดสอบจะขอยกไปในบทถัดไป)
ด้าน Storage ให้มาสะใจจริงๆกับ SSD NVMe ถึง 2TB จำนวน 2 ตัว โดยรวมร่างผ่านระบบ Raid เพื่อให้ได้ความจุที่มากขึ้นและความเร็วที่มากขึ้น เป็น 4TB นั่นเอง ส่วนหากใครอยากอัพเกรดก็รองรับถึง PCIe Gen5 ด้วยเก็บข้อมูลกันแบบจุใจกันเลย
ส่วนด้านแรมก็ได้ให้มาแบบจุใจจริงถึง 64GB แบบ DDR5 บอกเลยว่ารองรับในทุกๆการใช้งานจริงๆ
พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมากขึ้นถึง 99W/R ทำให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็ให้การ์ดไวไฟโมเดล Intel AX1690i ที่รองรับสัญญาณ WIFI-6E และ Bluetooh 5.3 ล้ำยุคมาก ๆ
Benchmark intro
ในส่วนการทดสอบยังคงการทดสอบเหมือนเช่นเคย อาทิ 3D Mark (ทดสอบกราฟฟิคการ์ด) , Cinebench R23 (ทดสอบ CPU และความร้อน CPU) พร้อมแล้วไปรับชมกันเลยครับ (ทดสอบเสียบแบตเตอรี่และเปิดรอบพัดลมสูงสูด เพื่อรีดประสิทธิ์ภาพได้มากที่สุด)
3D Mark
เป็นการทดสอบที่บอกเลยว่าชิวๆมากเลย สำหรับยานแม่ลำนี้ คะแนนรีดออกมา แรงแซงคอม PC ใครหลาย ๆ คนไปซะแล้ว คะแนนที่รีดสกอร์ออกมายาก ๆ อย่าง Speed Way ก็ผ่านสบาย ๆ
Cinebench R23
ทดสอบประสิทธิภาพของ CPU ในครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าเห็นคะแนนทั้ง Single Core และ Multi Core ซ็อคมาก ๆ และทดสอบเสร็จเร็ว ๆ มาก ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความน่ากลัวของ Gaming Notebook รุ่นนี้เลยครับ ส่วนความร้อน ถือว่าอยู่ในช่วงปกติครับ เพราะ Core i9 บน Version PC ก็มีอุณหภูมิประมาณนี้เหมือนกัน
Gaming Test Intro
สำหรับเกมขอย่อส่วนเหลือ PUBG และ มาทดแทนกับเกมที่โชว์ประสิทธิ์ภาพ RTX แทน นั้นคือเกม Need For Speed Unbond และ The Last Of US Part 1 แทนนะครับเพราะเป็นเกมที่ฟอร์มยักษ์ที่มี Option รองรับการปรั้บตั้งค่า DLSS และ RTX แต่การันตีจริงๆว่า เสปคระดับนี้เกมระดับนี้สบายจริงๆครับไปชมกันเลย (โดยทุกเกมจะปรับหน้าจอเป็น 2K ตามเสปคหน้าจอของตัวเครื่อง)
PUBG
สำหรับเกม PUBG นั้นเป็นเกมที่ยกตัวอย่างในเรื่องของเกมที่ไม่มี Option RTX ก็ถือว่าสบายๆ ไม่อยากเย็นอะไร ปรับ 2K Ultra Reder Scale ที่ 120% ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 100-110 FPS ครับ (หากต้องการปั่นเฟรมเรทก็สามารถลดได้ตามชอบนะครับ)
The Last Of US Part 1
เกมนี้ได้ลองใช้ฟีเจอร์ DLSS ที่เร่งเฟรมเรทของภาพยิ่งขึ้น แม้ว่าเราจะปรับความละเอียดถึง 2K Ultra และ DLSS Balance ก็ยังได้ 60-90 FPS เฟรมเรทจะมาเยอะตอนช่วงคัทซีนครับ (อาจจะปรับลดกราฟฟิคก็ได้นะครับ)
Need For Speed Unbound
MSI Center
ขาดไม่ได้เลยสำหรับโปรแกรมปรับตั้งค่าเครื่องอีกหนึ่งตัว ซึ่งคราวนี้พิเศษที่ตัวเครื่องมีโหมด GPU Switch ที่สามารถสลับโหมดการใช้งานกราฟฟิกการ์ด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่นหากเราต้องการเล่นเกม หรือใช้งานประสิทธิ์ภาพที่สูง เราสามารถปรับไปยังโหมด Discrete Graphics เพื่อให้สามารถรีดประสิทธิ์ภาพในการใช้งานได้ หรือพกพาไปข้างนอกใช้งานดูเอกสารและต้องการการประหยัดพลังงานก็สามารถสลับไปใช้งานโหมด integrated graphics เพื่อให้ตัวการ์ดจอ ON CPU ของ intel แทนเพื่อให้ประหยัดพลังงานเป็นต้น และสามารถใช้ระบบการปรับรอบพัดลมแบบ Ai ในโหมด Smart Auto เพื่อให้ตัวเครื่องเลือกรอบพัดลมให้เหมาะสมกับโปรแกรมที่ใช้งานนั่นเอง
บทส่งท้าย
จบไปแล้วนะครับสำหรับการแนะนำ Gaming Notebook ระดับยานแม่จากทาง MSI ในรุ่น MSI GE78HX ในรหัส 13VH-050TH เป็น Gaming Notebook ที่ให้พลังประมวลผลแบบชนิดที่ล้นเหลือ หากดูผลคะแนน แทบจะใกล้เคียง PC Desktop แล้ว เพราะมีทั้ง Intel Core i9 GEN13 , RTX4080 12GB และหน้าจอที่มาแบบ 2K อัตราส่วนภาพแบบ 16:10 ซึ่งเต็มตาเต็มอารมณ์มาก ๆ จะอัพเกรด Drive เก็บข้อมูลในเครื่องก็รองรับ PCIe GEN5 เผื่อไว้แล้ว เหมาะกับคนที่ต้องการประสิทธิ์ภาพสูงมาก ๆ แต่ต้องการที่จะพกพาไปที่ไหนก็ได้ ส่วนค่าตัวอยู่ที่ 169,990 บาท (หากมีโปรโมชั่นจะแจ้งให้ทราบนะครับ) สามารถหาซื้อได้ที่ร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศหรือ คลิกเลยครับ
ขอขอบคุณ MSI Gaming ด้วยนะครับที่ให้ทาง LOFTGAME ทดสอบพลังระดับยานแม่แบบนี้ ฝากติดตาม รีวิวจากทางพวกเรา LOFTGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับ สวัสดีครับ
Facebook คลิกเลยครับ
TikTok คลิกเลยครับ
และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ