รีวิว : Review MSI Katana 15 Gaming Notebook ปรับโฉมใหม่ประจำปี 2023 โดนใจชาวเกมเมอร์

สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งมี Gaming Notebook ที่เคยนำเสนอไปแล้วสำหรับ Series Katana ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ในปี 2023 นี้ทาง MSI ได้ปรับโฉมใหม่ที่เพิ่มแสงไฟคีย์บอร์ดแบบ 4 Zone RGB และเสปคที่รองรับการ์ดจอ RTX4000 Series ทำให้การเล่นเกมนั้นสนุกมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมแล้วไปรับชมกันครับ

Bundle

เมื่อแกะกล่องเครื่องจะพบ กระเป๋า Backpack , ตัวเครื่อง , Adapter Charge 240W , และสายไฟ AC ครับ


Design and Specification

เนื่องจาก เราเคยนำเสนอ Series Katana ไปก่อนหน้านี้แล้ว (คลิกเลยครับ) จึงขออนุญาตรีวิวในเชิง สรุปภาพรวมในจุดที่เปลี่ยนไปใน Series ปี 2023 ดังนี้ครับ ตัวคีย์บอร์ดได้ปรับใหม่ให้มีไฟที่สวยงาม ที่เรียกว่า 4 Zone RGB ที่ ปุ่ม W A S D และปุ่ม Arrow Key จะเป็นปุ่มที่โปร่งแสง ทำให้การเล่นเกมนั้นมองเห็นปุ่มได้อย่างชัดเจนกว่าเดิม

ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อฝั่งซ้าย ขวาเครื่อง จะเปลี่ยนใหม่ให้รองรับฟังก์ชั่นมากขึ้น ดังนี้ครับ ฝั่งซ้าย เป็นช่องชาร์จเครื่อง USB Type A 3.2 จำนวน 1 ช่อง และ USB Type A 2.0 จำนวน 1 ช่อง

ฝั่งขวา เป็นช่อง Port LAN RJ45 1Gbps , HDMI version 2.1 รองรับสูงสุด 8K 60 FPS , USB Type-C 3.2 รองรับการต่อจอแบบ Type-C to Display Port , USB 3.2 Type-A ปิดท้ายกับ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm แบบ Combo รวมหูฟัง+ไมโครโฟน

ส่วนสเปคก็ปรับใหม่ ที่พระเอกเป็นการ์ดจอ RTX4000 Series (ส่วนวันนี้เราจะรีวิวเป็น RTX4070 กันครับ) ความสามารถที่การ์ดจอ RTX4000 Series เพิ่มเติมนั่นคือการที่รองรับ DLSS3 , Ray Tracing 

ส่วน CPU และแรมนั้น ก็ได้ทำการ Refresh แล้วด้วยการนำ CPU ใหม่อย่าง Intel I7 Gen13 มาใส่แล้ว และรองรับ RAM DDR5 ด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมกับ CPU ได้ดีขึ้น ส่วนรุ่นที่เรารีวิวจะเน้นทางการ์ดจอจึงจะเป็น Intel i7 Gen12 พร้อม RAM DDR5 แทนนะครับ ความแรงยังครบถ้วนใช้งานครอบคลุมเช่นเดิมด้วยการที่เป็น CPU Hybrid แนวคิดใหม่ ที่มีการแบ่ง P Core และ E Core ผสานการใช้งานร่วมกัน ทำให้การใช้งานเครื่องได้ดียิ่งขึ้น

หน้าจอจะคล้ายกับโมเดิลเดิมคือเป็น 15.6 นิ้ว Full HD 144Hz ครับใช้งานได้หลากหลายครับ พร้อม WEBCAM 720p ไว้ video call สนทนาได้ระดับหนึ่งครับ หน้าจอกางแบนราบได้ถึง 180 องศาเลย

ด้านการอัพเกรดเครื่องก็รองรับแกะซ่อมบำรุง ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ยากครับ พร้อมระบายความร้อนด้วยเทคโนโลยี Cooler Bost 5 ฮีตซิงค์ใหญ่ ๆ พัดลมระบายความร้อนถึง 2 ตัว

ภายในเครื่องได้ให้ SSD NVMe PCIe Gen 4 มาแล้ว 1 ตัว ( สามารถอัพเกรด SSD ได้เพิ่มอีก 1 ตัวนะครับ )

 และ RAM DDR5 BUS4800 8GB จำนวน 2 แผงแล้ว (อัพเกรดได้สูงสุดถึง 64GB) และการเชื่อมต่อไวไฟรองรับ Wi-Fi AX ด้วยชิป Intel AX-201 


Testing Benchmark

เข้าสู่การทดสอบเครื่องสรุปการทดสอบด้านกราฟฟิคด้วยการทดสอบกับ 3D Mark รีดคะแนน ได้ออกมาเยอะมาก ๆ เพราะรอบนี้เราเอาตัวเสป็คเครื่องระดับ Top Tier ที่มีการ์ดจอ RTX4070 นั่นเอง

ส่วนการระบายความร้อนก็ ได้การระบายความร้อนจาก Cooler Bost 5 การทดสอบที่เห็นผลชัดเจนเช่น Cinebench R23 ที่มีการดึงพลัง Full Load CPU แต่เมื่อหลังจากทดสอบเสร็จก็มีการระบายความร้อนออกไปอย่างรวดเร็วครับ

ส่วน SSD 1TB ที่ติดเครื่องมานั้น ความเร็วถ่ายโอนปานกลางครับ (แต่สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ครับ หากต้องการความจุที่มากขึ้น)


Testing Gaming intro

กลับมาที่การเล่นเกมบ้างนะครับขอทดสอบที่ความละเอียด Full HD โดย 2 เกมแรกที่ชูพลังการ์ดจอดิบ ๆ กับอีก 2 เกมจะเป็นการดึงพลัง RTX ออกมาใช้งาน เกมอะไรบ้างพร้อมแล้วไปรับชมกันต่อครับ

PUBG

สำหรับเกม PUBG เกมนี้หายห่วงมาก ๆ ครับ สามารถปรับถึง All Ultra ได้เฟรมเรทที่ 120-170 FPS กันเลย อยากได้เครื่องพกพาไป LAN Party ซ้อมแข่ง Boot Camp ห้ามพลาดเลยครับ

Company of heroes 3

เกมนี้พอเล่นกับเครื่องรุ่นนี้แล้วเป็นเครื่องที่ความแรงนั้นใช้ได้เลยครับ เฟรมเรทไม่ตก คงเส้นคงวาตลอดปรับ All Ultra ทั้งหมด ได้เฟรมเรทที่ 120-140 FPS ครับ (แต่ห้ามไปซูมใกล้ ๆ นะครับเพราะเกมนี้ซูมใกล้ ๆ เฟรมเรทจะลดฮวบเลยครับ)

Need For Speed Unbound

เกมที่เป็นเกมเรียกใช้พลัง RTX แบบอุ่นเครื่องกันก่อนก็ขอปรับ ALL Ultra พร้อมกับ DLSS ที่ Balance และ Frame Generation เฟรมเรทยัดไปที่ 120-190 FPS เลย ใครชอบขับรถในเกมนี้ซื้อไปเล่นไม่ผิดหวังครับ

The Last Of US Part 1

ปิดท้ายเกม ที่สูบความแรงเครื่องขอยกมาเป็นคู่เอกของรีวิวครั้งนี้ สามารถปรับได้ที่ High พร้อมกับ DLSS ที่ Balance เฟรมเรทยัดไปที่ 80-110 FPS เลย

Program & Utility 

ขอแนะนำซอฟต์แวร์ MSI Center รุ่นใหม่ รองรับการปรับแต่ง ตั้งค่าให้อิสระมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถดาวน์โหลดและอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดผ่าน MSI Center นี้ และมีลูกเล่นอีกมากมาย เช่น MSI Companion ที่เป็น Overlay ในขณะเล่นเกม, การเซฟไฮไลต์ในการเล่นพร้อมตัดต่อโดยอัตโนมัติ ดูสถานะของเครื่องได้ทั้งหมด ทั้งแบตเตอรี่ SSD CPU GPU และโปรแกรม Nahimic 3

บทส่งท้าย

จบแล้วนะครับสำหรับการรีวิว MSI Katana 15 รหัส B12VGK-097TH ที่ได้การ์ดจอ RTX4070 พร้อม RAM DDR5 16GB และความแรงกับ Intel Core I7 Gen12 ที่มี P Core , E Core ที่ถึงแม้ว่า CPU จะเลือกใช้ Generation ก่อนหน้า แต่ก็ไม่มีปัญหาเลยเพราะเอาเข้าจริงการเล่นเกมมันต้องไปเน้นการ์ดจอมากกว่า จากการทดลองเล่นทุกๆเกม CPU แทบไม่ได้ทำงานเต็มที่ขนาดนั้นเลย ด้วยโมเดิลนี้ใครอยากเอาไปต่อจอมอนิเตอร์ใหญ่ๆก็สบายๆเลยนะครับเพราะเสปคการ์ดจอแรง รองรับ HDMI 2.1 ที่รองรับบน Smart TV เลย โดยสนนราคาอยู่ที่ 63,990 บาท (สนใจคลิกเลยครับ

ฝากติดตาม รีวิวจากทางพวกเรา LOFTGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับ 

สวัสดีครับ

Facebook คลิกเลยครับ 

TikTok คลิกเลยครับ 

และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ

อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า
LOFTSGAME - ลอฟท์เกม - รีวิว บทความ ข่าวสาร เกม ไอที และอีสปอร์ต by อัจ ลอฟท์เกม