- กราฟิกการ์ด AMD Instinct MI300X จะเป็นขุมพลังขับเคลื่อนเครื่องเวอร์ชวลแมชชีน Microsoft Azure ใหม่ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับการทำงานด้าน AI
- นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ 4th Gen AMD EPYC ยังได้รับการนำมาใช้บนเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนกับงานหลากหลายในยุคใหม่ ที่เน้นการใช้งานหน่วยความจำ และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - 23 พฤศจิกายน 2566 - AMD (NASDAQ: AMD) และ Microsoft นำเสนอวิธีการทำงานของผลิตภัณฑ์ AMD ที่งาน Microsoft Ignite ประกอบด้วยกราฟิกการ์ด AMD Instinct™ MI300X ที่กำลังจะเปิดตัว, โปรเซสเซอร์ AMD EPYC™ และ AMD Ryzen™ ไปจนถึงเอนจิ้นด้าน AI ที่เปิดใช้ผ่านบริการใหม่ ๆ และการประมวลผลบนระบบคลาวด์และบนเทคโนโลยี generative AI, การประมวลผลที่เป็นความลับ (Confidential Computing), การประมวลผลบนระบบคลาวด์และคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
Vamsi Boppana รองประธานอาวุโสฝ่าย AI บริษัท AMD กล่าวว่า “AMD กำลังส่งเสริมเทคโนโลยี AI ในทุกที่ ตั้งแต่บนระบบคลาวด์ ไปจนถึงในองค์กรและอุปกรณ์ปลายทาง ที่ขับเคลื่อนการทำงานบนขุมพลังโปรเซสเซอร์พร้อมกราฟิกการ์ดและเอนจิ้นด้าน AI ของเรา ด้วยความร่วมมือกับ Microsoft และพันธมิตรในอีโคซิสเต็มด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ AMD สามารถเร่งสร้สงนวัตกรรมเพื่อเสนอคุณประโยชน์ของเทคโนโลยี AI มาสู่เครื่องมือประมวลผลต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง พร้อมด้วยขีดความสามารถบนซอฟต์แวร์ที่เพิ่มมากขึ้น”
ขุมพลังขับเคลื่อนความสามารถใหม่ ๆ ด้าน AI บน Azure AMD Instinct MI300X
เวอร์ชวลแมชชีนซีรีส์ใหม่ Azure ND MI300X v5 ของ Microsoft ได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับเวิร์คโหลดงานด้าน AI โดยกราฟิกการ์ด AMD Instinct MI300X ทำให้เวอร์ชวลแมชชีน Azure เป็นบริการบนระบบคลาวด์เครื่องแรกที่ใช้กราฟิกการ์ด AMD รุ่นใหม่ ซึ่งเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานหลากหลายของ Microsoft ที่สนับสนุนนวัตกรรมด้าน AI สำหรับทุกองค์กรที่เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในด้านประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานและการปรับขนาดมากขึ้น
ความก้าวหน้าการประมวลผลบนระบบคลาวด์ด้วยขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD EPYC
โปรเซสเซอร์ 4th Gen AMD EPYC ยังได้รับการนำมาใช้บนเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนในงานทั่วไปหลากหลาย ที่เน้นการใช้หน่วยความจำ และเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลกับงานยุคใหม่ ๆ โดยเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนใหม่จาก Microsoft ยังคงแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความต้องการของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC ในระบบคลาวด์ ทั้งทางเลือกด้านราคาที่ดีกว่า ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นสูงสุด 20% ในงานที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานทั่วไปและเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนที่ต้องการหน่วยความจำมหาศาล รวมไปถึงประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าสำหรับงานด้านการประมวลผลเมื่อเทียบกับเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นก่อนหน้า เครื่องเวอร์ชวลแมชชีนซีรีส์ใหม่จะพร้อมใช้งานในรูปแบบ Public Preview ช่วงไตรมาสแรกของปี 2024
AMD ยังได้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนซีรีส์ Azure NGADs V620 ที่งาน Ignite ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ใช้งานทั่วไปแล้ว และเป็นส่วนเสริมใหม่ของเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนตระกูล Azure N-Series ที่ขับเคลื่อนขุมพลังบนกราฟิกการ์ดสำหรับการแสดงผล โดยเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนเหล่านี้ขับเคลื่อนบนเทคโนโลยี AMD ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กราฟิกการ์ด AMD Radeon PRO V620 และโปรเซสเซอร์ 3rd Gen AMD EPYC เครื่องเวอร์ชวลแมชชีนซีรีส์ NGads V620 มีไว้สำหรับเวิร์กโหลดงานที่ต้องการทรัพยากรกราฟิกการ์ดค่อนข้างมาก เพื่อรองรับเวิร์กโหลดงานที่หนักหน่วงหรือผู้ใช้ที่มีจำนวนมากขึ้น เพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในเวิร์กโหลดงานด้านกราฟิกการ์ดหลากหลายประเภท รวมถึงด้านเกม, VDI, และการเรนเดอร์ โดยผู้ใช้เครื่องซีรี่ส์ NG จะได้รับไดรเวอร์ที่ปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ใหม่ AMD Software: Cloud Edition
AI สำหรับคอมพิวเตอร์
นอกนากนี้ AMD ยังได้จัดแสดงความเคลื่อนไหวด้านการพัฒนาเทคโนโลยี Ryzen AI อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นตัวเร่งความเร็วการประมวลผลด้าน AI ตัวแรกที่อยู่ในโปรเซสเซอร์ x86 พร้อมด้วยระบบที่รองรับโปรเซสเซอร์ Ryzen 7000 Series ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Ryzen AI ภายในมากกว่า 50 รุ่น ทำให้มีคอมพิวเตอร์ AMD AI หลายล้านเครื่องในตลาด AMD และ Microsoft ร่วมกันเปิดใช้งานฟีเจอร์ Windows Studio Effects บนคอมพิวเตอร์ที่รองรับฟีเจอร์ Ryzen AI และ AMD ยังคงทำงานร่วมกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับเวิร์คโหลดงานด้าน AI ที่มากขึ้นและเสนอประสบการณ์ด้านการสร้างสรรค์ AI (generative AI) ให้กับผู้บริโภค
สามารถติดตามชมงาน AMD Advancing AI ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม ตามเวลาประเทศไทย 01:00 น. (ตีหนึ่งตรง) เพื่อรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ AI ของ AMD
